ทำบุญวันเกิดอย่างไรให้ปัง เสริมสิริมงคลให้แก่ชีวิตของคนแต่ละวัน

ทำบุญวันเกิด

การทำบุญวันเกิดในประเทศไทยเกิดขึ้นตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ทรงพระราชดำริเห็นว่า

“การซึ่งมีอายุมาถึงบรรจบครบรอบปีไม่ตายไปเสียก่อน เป็นลาภอันอุดมอย่างหนึ่ง ซึ่งเป็นที่ควรยินดี…และควรที่จะทำใจให้เป็นที่ตั้งแห่งความไม่ประมาท…”

เป็นใจความว่าการที่คนเราจะมีอายุเพิ่มขึ้นวันเกิดวนมาประจบกันในแต่ละครั้ง โดยที่ไม่ตายไปเสียก่อนนั้นถือว่าเป็นลาภอันประเสริฐ และเปรียบเสมือนเป็นสิ่งเตือนใจว่าชีวิตเริ่มเข้าใกล้ความตายมาแล้วอีกหนึ่งปี จงใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาท ดังนั้นควรยินดีที่กับการบำเพ็ญกุศลที่เป็นประโยชน์แก่ตนและแก่ผู้อื่น เพราะเราไม่สามารถจะรู้ได้ว่าจะอยู่ถึงครบรอบวันเกิดของปีต่อไปหรือไม่ และก็เป็นที่มาของการเฉลิมพระชนมพรรษาจนมาถึงในปัจจุบัน 

ทำบุญวันเกิดคืออะไร

คือการปรารภวันเกิดและทำความดีบำเพ็ญกุศลที่เป็นประโยชน์แก่ตนและแก่ผู้อื่น เพื่อให้ได้รับมงคลต่อชีวิตหรือได้รับอานิสงส์ตอบแทน พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า

บุคคลให้อาหารชื่อว่าให้กำลัง ให้ผ้าชื่อว่า ให้วรรณะ ให้ยาน
พาหนะชื่อ ว่าให้ความสุข ให้ประทีปโคมไฟชื่อว่า ให้จักษุ
และผู้ที่ให้ที่พักพาอาศัย ชื่อว่าให้ทุกสิ่งทุกอย่าง
ส่วนผู้ที่พร่ำสอนธรรม ชื่อว่าให้อมฤตธรรม ฯ

และดั่งพระพุทธภาษิตที่ว่า “ผู้ให้สิ่งที่น่าพอใจ ย่อมได้สิ่งที่น่าพอใจ ผู้ให้สิ่งที่เลิศ ย่อมได้สิ่งที่เลิศ ผู้ให้สิ่งประเสริฐ ย่อมได้สิ่งที่ประเสริฐ ผู้ให้สิ่งที่ประเสริฐสุด ย่อมได้สิ่งที่ประเสริฐสุด”

การทำบุญวันเกิดของคนแต่ละวัน

ทำบุญวันเกิดของคนเกิดวันอาทิตย์

คนเกิดวันอาทิตย์ควรตักบาตรทำบุญด้วยของคาวที่เน้นไข่ เช่น ไข่พะโล้ ไข่ลูกเขย ไข่ดาว ไข่เจียว เป็นต้น ส่วนของหวานควรเป็นขนมที่มีกะทิเป็นส่วนประกอบหลัก เช่น มะพร้าวอ่อน มะพร้าวแก้ว ไข่หวาน เป็นต้น และเครื่องดื่มสมุนไพรสุขภาพ

ส่วนของใช้ที่ทำเป็นสังฆทานแนะนำให้ถวายอุปกรณ์ที่ให้แสงสว่าง เช่น หลอดไฟ ไฟฉาย เทียน หรือแว่นตา และทำทานด้วยการเติมน้ำมันตะเกียง บริจาคให้กับมูลนิธิคนตาบอด โรงพยาบาลโรคหัวใจ เพื่อเสริมดวง เสริมพลังให้กับชีวิต ลดอารมณ์ร้อนของคนวันอาทิตย์

ทำบุญวันเกิดของคนเกิดวันจันทร์

คนที่เกิดวันจันทร์ ควรทำบุญตักบาตรด้วยข้าวมันไก่ ไก่ย่าง ต้มข่าไก่ ไก่ผัดขิง ปูผัดผงกะหรี่ กุ้งทอดกระเทียม ปลาหมึกผัดไข่ ปลาทอด ส่วนเครื่องดื่มของหวานให้ถวายเป็นน้ำเต้าหู้ นมถั่วเหลือง นมสด มันเชื่อม ขนมเปี๊ยะ ผลไม้ลางสาด เป็นต้น

ส่วนของใช้สำหรับถวายสังฆทานแนะนำถวายสิ่งของที่เป็นคู่ หรือวัตถุโปร่งใส เช่น แก้วน้ำ แจกันใส และแนะนำให้ทำทานแก่สตรี เช่น มูลนิธิเพื่อนหญิง สมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรีฯ มูลนิธิปวีณาเพื่อเด็กและสตรี เป็นต้น จะช่วยให้จิตใจมีความสดชื่นเบิกบาน ลดความวิตกกังวล

ทำบุญวันเกิดของคนเกิดวันอังคาร

คนที่เกิดวันอังคาร แนะนำให้ตักบาตรด้วยอาหารประเภทเส้นและปลาต่าง ๆ เช่น ขนมจีน บะหมี่เกี๊ยวปลา ผัดวุ้นเส้น ก๋วยเตี๋ยว ปลากะพงนึ่งซีอิ๊ว ปลาทอด ลอดช่อง ฝอยทอง เป็นต้น ส่วนผลไม้ให้ถวายเป็น ระกำ ขนุน หรือทุเรียน

การจัดสังฆทานถวาย ควรเป็นของใช้ เช่น พัดลม กรรไกรทั่วไป กรรไกรตัดเล็บ ผ้าไตร สบง ปิ่นโต เป็นต้น และทำทานให้ให้กับผู้พิการปากแหว่งเพดานโหว่ ผู้ป่วยโรคลมซัก มูลนิธิสร้างรอยยิ้ม มูลนิธิตะวันฉาย มูลนิธิโรงพยาบาลเด็ก เพื่อเป็นอานิสงค์ให้มีจิตใจเบิกบาน สุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง เจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน

ทำบุญวันเกิดอย่างไรให้ปัง

ทำบุญวันเกิดของคนเกิดวันพุธ

คนที่เกิดในวันพุธ แนะนำให้ตักบาตรทำบุญด้วยอาหารง่าย ๆ เช่น หมูปิ้ง หมูทอด หมูย่าง แกงเขียวหวานหมู ขนมเปียกปูน น้ำฝรั่ง มะม่วงเขียวเสวย ชมพู่ เป็นต้น

ของใช้สำหรับจัดถวายเป็นสังฆทานควรเป็นอุปกรณ์เพื่อการศึกษาไม่ว่าจะเป็นสมุด ปากกา ดินสอ ยางลบ น้ำยาลบคำผิด หรือจะจัดเป็นพวกยาสามัญประจำบ้านก็ได้เช่นกัน และควรทำทานให้กับมูลนิธิหรือหน่วยงานที่เกี่ยวกับยาเสพติด เพื่อส่งผลให้ใช้ชีวิตอย่างมีสติ พ้นจากอุปสรรค

ทำบุญวันเกิดของคนเกิดวันพฤหัสบดี

คนที่เกิดวันพฤหัสบดี อาหารที่เหมาะสำหรับนำไปตักบาตรทำบุญ เช่น แกงเลียง แกงฟัก ผัดบวบใส่ไข่ น้ำเต้าหู้ น้ำมะตูม ผลไม้แตงโม ส้ม สาลี่ หรืออาหารที่มีส่วนผสมหลักเป็นพืชที่มีเถา

ของใช้สำหรับจัดถวายสังฆทานแนะนำเป็น สบง จีวร หนังสือธรรมะ โต๊ะหมู่บูชา หรือตู้ยา และควรทำทานให้กับโรงพยาบาลสงฆ์ บริจาคเสื้อผ้า อาหารให้กับคนยากไร้ เพื่อส่งผลให้ชีวิตสุขสงบ

ทำบุญวันเกิดของคนเกิดวันศุกร์

คนที่เกิดวันศุกร์ แนะนำให้ทำบุญตักบาตรด้วยพืชผักที่มีกลิ่นหอม เช่น ข้าวหอมมะลิ ข้าวปกาหม้อ ไข่เจียวใส่ต้นหอมหรือหอมหัวใหญ่ กระเพราเนื้อสัตว์ต่าง ๆ น้ำมะพร้าว น้ำเก๊กฮวย กล้วยหอม

ส่วนการจัดสังฆทานสำหรับถวายพระควรเป็นของใช้ประเภท นาฬิกา ย่าม โต๊ะรับแขก ให้ทุนการศึกษาพระเณร ทำทานบริจาคเงิน ข้าวของเครื่องใช้จำเป็นให้แก่เด็กด้อยโอกาส เพื่อส่งอานิสงค์ให้มีคนรักใคร่ สนับสนุน ทำสิ่งใดก็จะประสบความสำเร็จ

ทำบุญวันเกิดของคนเกิดวันเสาร์

สำหรับคนที่เกิดวันเสาร์ควรเป็น ต้มยำอกไก่ใส่เห็ด แกงเลียง ข้าวต้มปลาเก๋า แกงจืดมะระยัดไส้ น้ำพริกปลาทู น้ำผักผลไม้ที่ดีต่อสุขภาพ ร่ม กระเบื้องมุงหลังคา ไม้กวาด สร้างห้องน้ำถวายวัด ทำความสะอาดวัด

ทำทานโดยการบริจาคเงินผู้ป่วยจิตเวชยากไร้ โรงพยาบาลโรคจิต โรงพยาบาลโรคประสาท เพื่อส่งอานิสงค์ให้หลุดพ้นอุปสรรคปัญหาต่าง ๆ

ประชาสัมพันธ์

ข่าวดี ! สำหรับลูกค้าท่านใดที่กำลังสนใจจะสร้างบ้าน บริษัท หรือที่อยู่อาศัยประเภทต่าง ๆ ตอนนี้เรามีแพคเกจสุดคุ้ม

"ปฐมมงคล" รวมแพคเกจลงเสาเอกและทำบุญขึ้นบ้านใหม่ไว้ในราคาเดียว ประหยัดและคุ้มค่าแน่นอน

ทําบุญวันเกิด วันอังคาร

การทำบุญวันเกิด โดยไม่ต้องไปวัด

เนื่องจากสถานการณ์โควิด -19 ทำให้การใช้ชีวิตของคนเราเปลี่ยนไปหลายด้านรวมถึงการการนิยมทำบุญแบบออนไลน์ อยู่ที่ไหน เวลาไหนก็สามารถทำบุญได้ตลอดเวลาไม่จำเป็นต้องออกจากบ้านง่าย ๆ ด้วยปลายนิ้ว โดยการทำบุญผ่านช่องทางการบริจาคของมูลนิธิต่าง ๆ พลังศรัทธาได้รวบรวมมูลนิธิที่นิยมทำบุญกันมาให้ดังต่อไปนี้

1. มูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์
ผ่านช่องทางออนไลน์ : blind.or.th

2. มูลนิธิหัวใจแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์
บริจาคผ่านช่องทางออนไลน์ : thaiheartfound.org

3. มูลนิธิสร้างรอยยิ้ม ช่วยเหลือผู้ป่วยยากไร้ที่มีภาวะปากแหว่งเพดานโหว่ รวมถึงแผลไฟไหม้ และความผิดปกติอื่น ๆ บนใบหน้า
บริจาคผ่านช่องทางออนไลน์ : thailand1.wpengine.com

4. มูลนิธิรณรงค์ช่วยให้เลิกบุหรี่และสารเสพติด (Action on Smoking Health and Addictive Foundation) บริจาคผ่านช่องทางออนไลน์ : saf.or.th

5. โรงพยาบาลสงฆ์ บริจาคผ่านช่องทางออนไลน์ : priest-hospital.go.th

6. มูลนิธิกระจกเงา องค์กรพัฒนาเอกชนที่ทำงานเกี่ยวกับการพัฒนาสังคม หลายด้าน
บริจาคผ่านช่องทางออนไลน์ : web.mirror.or.th

7. วัดพระบาทน้ำพุ มูลนิธิธรรมรักษ์รับรักษาและฟักฟื้นผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยโรคเอดส์
บริจาคผ่านช่องทางออนไลน์ : phrabatnampu.org

กลับสู่บนสุด

เคล็ดลับทำบุญวันเกิดอย่างไรให้ปัง

1. ให้เริ่มที่ตัวเราทำจิตใจให้สงบ คิดดี ทำดี ไม่เบียดเบียนผู้อื่น
2. ในวันเกิดควรทำกิจกรรมที่บำเพ็ญประโยชน์ต่อส่วนรวม ไม่ว่าจะเป็นการให้ทานในรูปแบบต่าง ๆ
3. ขอบคุณและดูแลผู้ให้กำเนิด ตอบแทนพระคุณบิดามารดาที่เลี้ยงดู เช่น การพาท่านไปทำบุญทำทานร่วมกัน พาไปเที่ยว หรือพาไปรับประทานอาหารร่วมกัน ใช้เวลาอยู่กับครอบครัวในวันพิเศษ